ยูเนสโก ประกาศยกย่อง


ยูเนสโก ประกาศยกย่อง สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เป็นบุคคลสำคัญของโลก ในวาระครบรอบวันพระราชสมภพ ๑๕๐ ปี

องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ได้ดำเนินโครงการประกาศยกย่องและร่วมเฉลิมฉลองบุคคลสำคัญและเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ของประเทศสมาชิก ซึ่งมีความสำคัญในระดับโลกหรือระดับภูมิภาค เนื่องในวาระครบรอบ (ปีเกิดหรือปีตาย) ๕๐ ปี ๑๐๐ ปี หรือมากกว่า มีหลักเกณฑ์การพิจารณา คือ บุคคลสำคัญหรือเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์นั้น จะต้องเกี่ยวข้องกับภารกิจหลักของยูเนสโก คือ การศึกษา วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม สังคมศาสตร์ และสื่อสารมวลชน และส่งเสริมขันติธรรม สันติธรรม วัฒนธรรม ตลอดจนความสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีของมวลมนุษยชาติ ตามอุดมการณ์ ค่านิยม ความหลากหลายทางวัฒนธรรมและความเป็นสากลขององค์การยูเนสโก ยูเนสโกจะพิจารณารายชื่อบุคคลหรือเหตุการณ์สำคัญในการประชุมใหญ่สมัยสามัญ ซึ่งจัดขึ้นทุก ๒ ปี
ซึ่งในการประชุมสมัยสามัญของยูเนสโก ครั้งที่ ๓๖ ที่สำนักงานใหญ่องค์การยูเนสโก กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ที่ประชุมได้มีมติรับรองการประกาศร่วมเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ ๑๕๐ ปี พระราชสมภพสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี
พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ซึ่งตรงกับวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๕๕ ในฐานะที่ทรงเป็นบุคคลสำคัญที่มีผลงานด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ประยุกต์ (สาธารณสุข) วัฒนธรรม สังคมศาสตร์และมานุษยศาสตร์ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ด้วยผลงานสำคัญ ได้แก่
ด้านการศึกษา ทรงตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาในการพัฒนามนุษย์ จึงมีพระราชกรณียกิจทั้งด้าน การศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ การศึกษาตามอัธยาศัย ตลอดจนถึงการพระราชทานทุนการศึกษา ทรงเน้นหลักการศึกษาตามศักยภาพของแต่ละบุคคล ให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ตามสิทธิพื้นฐานที่มนุษย์พึงมี การขัดเกลาด้านคุณธรรม จริยธรรม เพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในสังคมโดยรวม ทั้งยังทรงนำความรู้จากการทรงลงทุนประกอบอาชีพที่โยงใยมาถึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ได้แก่
- การตั้งโรงเย็บผ้า ณ พระที่นั่งทรงธรรมในบริเวณสวนศิวาลัย พระบรมมหาราชวัง
- การทอผ้า ใน พ.ศ. ๒๔๔๒ พระองค์เริ่มมาประทับแรม ณ พระตำหนักที่ตำบลศรีราชา จังหวัดชลบุรี เพื่อฟื้นฟูพระสุขภาพ ทรงพบว่างานฝีมือทอผ้าในพื้นที่ใกล้เคียง คือ ที่ชุมชนอ่างศิลา และเขาสามมุก มีความงดงาม จึงทรงสนพระทัยและโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งหูกทอผ้าพื้นบ้านขึ้น ณ พระตำหนักที่ศรีราชา มีช่างท้องถิ่นเป็นครูสอน ทรงชักชวนพวกแม่บ้านแถวนั้น (ศรีราชา) ให้มาฝึกฝนเรียนรู้ พระองค์เองก็ทรงฝึกฝนด้วย เมื่อเสด็จฯ กลับมาประทับที่พระตำหนักสวนหงส์ วังสวนดุสิต ได้โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งกองทอเป็นโรงงานขนาดย่อมบริเวณพระตำหนักที่ประทับ
- โรงสีข้าว ทรงตั้งโรงสีข้าว เพื่อรับสีข้าวจากนาของพระองค์เอง ด้วยพระปรีชาสามารถด้านการบริหารจัดการตามศักยภาพความสามารถ โรงสีข้าวของพระองค์จึงมิได้มุ่งในเชิงธุรกิจ แต่เพิ่มมูลค่าแก่ผลผลิตข้าวที่ได้จากนาส่วนพระองค์เพื่อการบริโภค แล้วจึงนำส่วนที่เหลือไปจำหน่าย และบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ ผู้ประสบภัยพิบัติ
ด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ทรงช่วยเกื้อหนุนการรักษาพยาบาลแบบตะวันตกในสังคมไทย รวมทั้งได้พระราชทานความช่วยเหลืออื่นๆ แก่ผู้เจ็บไข้ได้ป่วย ผ่านพระราชกรณียกิจด้าน สภากาชาดไทย การก่อตั้งสถานรักษาพยาบาลที่ตำบลศรีราชา (ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ในปัจจุบัน) ซึ่งปัจจุบันก็คือ โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา และการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ โรงพยาบาลศิริราช
ด้านการอนุรักษ์พัฒนาวัฒนธรรม สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าสนพระทัยและทรงพระปรีชาด้านงานฝีมือเย็บปักถักร้อย และการทอผ้า จนสามารถโยงใยมาถึงการพัฒนาเป็นงานอาชีพในกลุ่มสตรีที่ทรงรู้จัก รวมทั้งข้าราชบริพาร และยังต่อเนื่องมาถึงการศึกษานอกระบบ ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว อนึ่ง แม้การเรียนรู้จากการฝึกปฏิบัติ (learning by doing) จะอยู่ในกลุ่มคนเพียงกลุ่มหนึ่งเท่านั้น แต่ก็เป็นการพัฒนาเพิ่มคุณภาพทรัพยากรมนุษย์แก่สังคมไทย นอกจากนั้นพระองค์ยังเคยมีส่วนร่วมเผยแพร่ศิลปหัตถกรรมในต่างประเทศด้วย
สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ทรงเป็นราชนารีแห่งราชวงศ์จักรี ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอเนกอนันต์ เพื่อประโยชน์ของบ้านเมืองและมวลมนุษยชาติ ในโอกาสครบ ๑๕๐ ปี วันคล้ายวันพระราชสมภพ พ.ศ. ๒๕๕๕ (ค.ศ. ๒๐๑๒) ปวงชนชาวไทย จึงควรพร้อมใจร่วมกันเฉลิมพระเกียรติคุณ ให้แผ่ไพศาลในนานาอารยประเทศ ในฐานะที่ทรงเป็นบุคคลสำคัญแห่งโลกที่มีผลงานดีเด่นในด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์สุขภาพ และการอนุรักษ์พัฒนาวัฒนธรรม ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรม มูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ร่วมกับหน่วยงานและสถาบันที่เกี่ยวข้องทั้งภายในประเทศและในต่างประเทศ จะดำเนินการจัดงานเฉลิมฉลองเพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณในระดับนานาชาติและในประเทศให้ปรากฏแก่ประชาชนชาวไทยทั้งมวล ในฐานะที่ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอันเป็นคุณูปการแก่สังคมไทยเป็นอเนกประการ ซึ่งมีคุณค่าและเป็นแบบอย่างที่ได้รับการยกย่องในระดับนานาชาติ
(ขอขอบคุณข้อมูลจากhttp://www.queensrisavarindira.net)